กาตาร์ซื้อ"ลิเวอร์พูล" แน่ ยื่นข้อเสนอ ก.พ.นี้
กลุ่มทุนจากกาตาร์ แสดงความสนใจที่จะเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล อย่างเป็นจริงเป็นจัง รวมทั้งจัดแจงยื่นข้อเสนอซื้อสโมสรในกุมภาพันธ์นี้
เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ประกาศพร้อมพิจารณาข้อเสนอเรื่องการลงทุนจากทุกฝ่าย ทั้งการร่วมมือ หรือการขายสโมสร ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ แถลงการณ์ว่า กลุ่มทุนจากกาตาร์ ได้ให้สนใจในการเทคโอเวอร์ลิเวอร์พูล อย่างเป็นจริงเป็นจัง รวมทั้งคาดว่าจะมีการยื่นข้อเสนอเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ขณะที่ผู้รายงานข่าวชาวกาตาร์อย่าง ซาอีด อัลคาบี้ ได้ออกมาเปิดเปิดเผยว่า เดอะ แอนฟิลด์ ทอล์ค สื่อออนไลน์ท้องถิ่นถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกันว่า กาตาร์ กำลังให้ความสำคัญกับการซื้อสิทธิ์สโมสร ลิเวอร์พูลเป็นอันดับแรก
สนใจเรื่องนี้อย่างตั้งใจจริง แต่ตอนนี้ดีลยังไม่เสร็จสิ้น เชื่อว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป “FSG” ประกาศขายสโมสร ลิเวอร์พูล
เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป “FSG” เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ประกาศขายสโมสรลิเวอร์พูล พร้อมเปิดทางให้กลุ่มทุนเจ้าอื่นเข้ามาเทคโอเวอร์
สื่อดังอย่าง”ดิ แอธเลติก” กล่าวว่า FSG เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ผู้ครอบครองสโมสรลิเวอร์พูล ต้องการที่จะขายทีมเเละเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาปรึกษาหารือและขอคำแนะนำในรายละเอียดด้วยกัน เเต่ยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นที่ว่าจะFSG ต้องการขายทีมทั้งหมดหรือขายเเค่หุ้นบางส่วน ซึ่งทีมหงส์แดงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากตอนที่กลุ่ม FSG เข้ามาซื้อเมื่อปี 2553 ที่ใช้เงินเพียง 447 ล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้ทีมนี้มีมูลค่ามากถึง 4.45 พันล้านดอลลาร์
เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (Fenway Sports Group) (FSG) ผู้ครอบครองสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เจาะจงในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า จะพิจารณาผู้ถือหุ้นรายใหม่ของลิเวอร์พูลที่ได้รับการแสดงความสนใจจากบุคคลที่สาม หลังมีการเปลี่ยนแปลงการเป็นเจ้าของและก็ข่าวซุบซิบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการเป็นเจ้าของของสโมสร EPL เมื่อเร็วๆนี้
FSG มักได้รับความสนใจจากบุคคลที่สามซึ่งต้องการเป็นผู้ถือหุ้นในลิเวอร์พูล ก่อนหน้านี้ FSG เคยกล่าวไว้แล้วว่า ภายใต้เงื่อนไขแล้วก็ข้อตกลงที่ถูกต้อง จะพิจารณาผู้ถือหุ้นรายใหม่ถ้าเกิดได้ผลสำเร็จประโยชน์ที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูลในฐานะสโมสร
FSG คงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อความสำเร็จของลิเวอร์พูล อีกทั้งในและก็นอกสนามต่อไป
ขณะที่สมาพันธ์ผู้ส่งเสริม ลิเวอร์พูล Spirit of Shankly กล่าวว่าหวังว่าแฟน ๆ จะได้รับการขอความเห็นในการบอกคุยใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของสโมสรคนใหม่ ‘เราได้มองเห็นรายงานข่าวในวันนี้ว่า FSG เสนอขาย ลิเวอร์พูล เอฟซี แล้ว’
“Spirit of Shankly ได้ทำหนังสือไปยัง LFC เพื่อความชัดเจนและจะรอคำตอบก่อนที่จะแสดงความนึกเห็นต่อไป’
ดังนี้ FSG ซึ่งเป็นเจ้าของเมเจอร์ลีกเบสบอล บอสตัน เรด ซ็อกส์ ได้เข้าซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูล จากทอม ฮิคส์และก็จอร์จ กิลเลตต์ เจ้าของเดิมในราคา 300 ล้านปอนด์ (343.56 ล้านดอลลาร์) ในปี 2553
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของ FSG ข้างต้น ซึ่งแถลงการณ์ไม่ได้เจาะจงไว้ก็คือ การปฏิเสธว่าสโมสรมีไว้ขาย หรือมีเอกสารเตรียมไว้ให้ผู้ซื้อที่ได้ไตร่ตรองแล้ว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อมีการรายงานข่าวในปี 2018 ว่า ชีค คาเลด บิน ซายด์ อัล-เนฮายัน ญาติของเจ้าของแมนเชสเตอร์ซิตี พร้อมที่จะเปิดตัวการเสนอซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลจำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ FSG ตอบสนองด้วยแถลงการณ์ซึ่งยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าการลงทุนใหม่จะได้รับการพิจารณา “ภายใต้ข้อจำกัดที่ใช่’ แต่ข้อความที่สำคัญคือ “‘FSG มีความชัดเจนแล้วก็ใส่คล้องกันว่าสโมสรไม่ได้มีไว้ขาย”
ซึ่งล่าสุดในพฤษภาคมที่ผ่านมา ทอม เวิร์นเนอร์ ประธาน ลิเวอร์พูล ได้บอกกับ ดิ แอธเลติก ว่า FSGยังคงมองว่าสโมสรเป็น “โครงการระยะยาว”ของพวกเขา

เฟนเวย์สปอร์ตส์กรุ๊ป ทีมบริหารผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จลิเวอร์พูล
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แม้พูดถึงชื่อสโมสรฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” พวกเราจะมองเห็นแต่ภาพประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ซ้อนทับกับภาพผลงานที่กระท่อนกระแท่น ประเดี๋ยวดี สักครู่ร้าย ห่างไกลจากความสำเร็จมานาน ต่อให้มีนักเตะฝีเท้าเลิศอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) อยู่ในทีมก็ตาม
ตัดภาพมาที่ตอนนี้ ยักษ์ใหญ่ที่เคยหลับ ตัวนี้กำลังตื่นขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด ซึ่งถ้าวัดกันตามผลงานแล้ว จะกล่าวว่าลิเวอร์พูลเป็นสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยไปนัก เนื่องจากพวกเขาพึ่งจะคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ของสโมสร ในฤดูกาลที่ผ่านมา รวมทั้งกำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เฝ้าคอยมาถึง 30 ปี
ตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ลิเวอร์พูลก้าวขึ้นมาในจุดนี้ได้ คือ การเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรของกลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์ (Fenway Sports Group หรือ FSG) บริษัทบริหารกิจการด้านกีฬาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2010
ที่น่าสนใจ คือ บริษัทนี้ไม่ใช่กลุ่มที่มีเงินถุงเงินถังอย่าง โรมัน อับราโมวิช (Roman Abramovich) เจ้าของทีมเชลซี หรือ ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน (Mansour Bin Zayed Al Nahyan) เจ้าของแมนเชสเตอร์ซิตี้ แต่กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์ที่นำโดย จอห์น ดับเบิลยู. เฮนรี (John W. Henry) สามารถทำให้ลิเวอร์พูล สโมสรฟุตบอลที่เคยแทบจะล้มละลายด้วยหนี้สินราว 260 ล้านเหรียญสหรัฐ ฟื้นขึ้นมามีกำไร รวมทั้งมีมูลค่าในขณะนี้อยู่ที่ 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ พวกเขาทำได้อย่างไร
Boston Red Sox Model
สิ่งที่กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์เคยทำสำเร็จมาก่อนหน้านั้น คือ การซื้อสโมสรเบสบอลทีมบอสตันเรดซอกซ์ (Boston Red Sox) ทีมดังในประเทศสหรัฐอเมริกา และทำให้ทีมกลับมาชนะการแข่งขันเบสบอลเวิลด์ซีรีส์ หลังจากที่ห่างหายความสำเร็จไปนานถึง 86 ปี
เฟนเวย์สปอร์ตส์เห็นภาพเดียวกันนี้กับสโมสรลิเวอร์พูล นั่นก็คือความยิ่งใหญ่ที่เคยมีในอดีต และการรอคอย ความสำเร็จ แต่สิ่งที่ลิเวอร์พูลมีมากกว่า คือ มีสาวกผู้ติดตามหลายร้อยล้านคนทั้งโลก ทั้งยังพรีเมียร์ลีกยังเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก ยอดผู้ชมในศึกแดงเดือดมีผู้ชมราว 1,000 ล้านคน มากกว่าผู้ชมการแข่งขันซูเปอร์โบว์ล (Super Bowl) ของประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 9 เท่า
ถึงในตอนนั้น ลิเวอร์พูลจะอยู่ในช่วงตกต่ำด้วยผลงานในสนามและก็การบริหารงานนอกสนามของเจ้าของเดิม แต่สิ่งพวกนี้กลับทำให้มูลค่าของสโมสรที่กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์ต้องจ่าย เหลือเพียงราว 326 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นมูลค่าที่ราวกับได้เปล่าเมื่อเทียบกับต้นทุนทางประวัติศาสตร์รวมทั้งจำนวนผู้ติดตามที่สโมสรมี เฮนรีเคยส่งเมล์ถึงบรรดานักลงทุนว่า “ถ้าเกิดเราสามารถปิดดีลนี้ได้ ผมรู้สึกราวกับว่าเรากำลังลักขโมยแฟรนไชส์นี้อยู่”
ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ นี้ ทำให้กลุ่มเฟนเวย์สปอร์ตส์มั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถใช้แนวทางที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับบอสตันเรดซอกซ์ มาประยุกต์กับลิเวอร์พูลได้ ผนวกกับการที่ทางสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศใช้กฎความยุติธรรมทางการเงิน (financial fair play) ในปี 2010 ยิ่งทำให้พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถทำให้ลิเวอร์พูลต่อกรกับทีมที่มีเงินถุงเงินถังอย่างเชลซี รวมทั้งแมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือแม้กระทั่งคู่อริตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ครองความยิ่งใหญ่ในเวลานั้นได้ โดยการประยุกต์ใช้แนวคิด “มันนี่บอล” (Moneyball)
Moneyball การเสาะหาผู้เล่นที่เหมาะสมที่สุดในราคาที่ถูกที่สุด
แนวความคิดมันนี่บอล มีจุดเริ่มมาจากทีมเบสบอล โอ๊กแลนด์แอทเลติกส์ (Oakland Athletics) ในช่วงที่ทีมตกต่ำ งบประมาณมีจำกัด ไม่สามารถใช้เงินฟาดซื้อผู้เล่นขั้นสูงที่ต้องการได้ บิลลี่ บีน (Billy Beane) ผู้จัดการทีมก็เลยใช้แนวทางการนำสถิติของผู้เล่นแต่ละคนในด้านต่าง ๆ มาวิเคราะห์อย่างมุ่งมั่น เพื่อเฟ้นหาผู้เล่นที่ทีมต้องการมากที่สุด แทนที่จะหาผู้เล่นที่เก่งที่สุด ทำให้พวกเขาสามารถซื้อผู้เล่นที่เหมาะสมกับทีมมาได้ในราคาที่ไม่สูง แล้วก็วิธีการนี้ก็ได้ผล จนถึงทำให้ทีมมีสถิติชนะรวด 20 เกมในลีกได้